ณ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการค้า และเวทย์มนต์แห่งหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งอย่างเร่งรีบผ่านโบสถ์คาเวียที่ตั้งตระง่าอยู่กลางเมือง ใช่แล้วที่นี่คือเมือง "แมกโนเลีย"อันโด่งดัง หญิงสาวยังวิ่งต่อไป ผมสีขาวเหมือนหิมะที่มัดขึ้นปลิวไสว ที่ข้อมือข้างขวาของเธอมีสัญลักษ์สีฟ้าอ่อนที่ชาวเมืองรู้ดี และเป็นสัญลักษณ์ของกิลจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุด เธอยังคงวิ่งต่อ วิ่งข้ามสะพาน ผ่านแม่น้ำ มุ่งสู่กิลจอมเวทแห่งเดียวของแมกโนเลีย
“กิลจอมเวทแห่งแฟรี่เทล”
ปัง! เสียงเปิดประตูของกิลทำให้คนในกิลบางคนต้องหันมามองปรากฎร่างบางพร้อมกับการทักทายอันสดใส
"กลับมาแล้วค่า" วินเธอร์สาวผมขาว ทักทุกคนแล้วเดินเข้ามาในกิลพร้อมใบหน้าที่มีเหยื่อพุดเล็กน้อยจะการวิ่ง
"กลับแล้วเหรอจ๊ะ" มิร่าเจนพนักงานต้อนรับอดีตจอมเวทระดับ s ของแฟรี่เทลถามเสียงหวาน ในมือยังถือถาดเบียร์อยู่
“ค่ะ มิร่าจัง!” วินเธอร์ตอบเสียงใส
หลังจากคุยกับมิร่าเสร็จ วินเธอร์ก็หันไปมามองดูคนในกิล ทันในนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวผมแดงสดเหมือนสีดอกสกาเล็ตในชุดเกราะพร้อมชื่อ"ไททาเนีย" กำลังกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ที่โต๊ะกับอีกสามคนที่เธอคุ้นเคย
"เอลซ่าฉันได้แบบชุดใหม่ของเธอแล้วนะ"วินเธอร์ตะโกนบอกสาวผมแดงสุดเสียงและวิ่งไปหาพวกเขาที่โต๊ะ
"จริงเหรอวินเธอร์! ฉันอยากเห็นเร็วๆจังเลย ชุดที่เธอออกแบบสวยทุกชุดเลย น่าเสียดายที่เธอไม่รับจ้างตัดชุด ไม่งั้นนะ เธอรวยไปแล้ว" ลูซี่สาวผมทองผู้อันเชิญเทพแห่งดวงดาวที่นั่งข้างเอลซ่าพูดทันทีที่วินเธอร์วิ่งมาถึงโต๊ะ ลูซี่ทำท่าทางตื้นเต้นยิ่งกว่าเอลซ่าที่จะได้ชุดเสียอีก
"ฉันเห็นด้วยกับลูซี่ ชุดที่เธอออกแบบและตัดเองเนี่ยเข้ากับคนใส่มากนะ แถมยังใช้วัสดุพิเศษที่เข้ากับพลังของคนที่ใส่อีกด้วย เจ๋งยิ่งกว่าเจ๋งอีก เธอเนี่ยเก่งไปป่ะ ไม่ใช้แค่สู้ที่มีความสามารถพอๆกับพวกเรา ยังเก่งเรื่องตัดเย็บเสื้อผ้าอีก" เกรย์หนุ่มน้ำแข็งผมดำพูดด้วยความภูมิใจในตัวน้องสาวบุญธรรมของเขาจนออกนอกหน้า
"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ^////^ ...ว่าแต่เกรย์เสื้อผ้าละ=//O//=" วินเธอร์พูดพร้อมยิ้มเขินๆ อย่างดีใจที่ได้ยินคำชมของพี่ชายแล้วจึงรีบเปลี่ยนหน้าอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังหลงเหลือสีแดงระรื่นบนใบหน้าหวานอยู่ดี
"เห้ย! ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย" เกรย์พูดออกมาอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าตนไม่ได้ใส่เสื้อท่อนบน แม้จะเป็นเรื่องปกติก็ตาม (เงียบน่ายัยบ้าเด) แล้วจึงหันมายิ้มเจื้อนให้วินเธอร์ แต่เขาก็สังเกตุเห็นใบหน้าสีแดงระรื่นของน้องสาว
"อ่าว วินเธอร์เป็นอะไรไปนะ หน้าแดงเชียว เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย"เกรย์ถามอย่างเป็นห่วง แล้วเดินมาใกล้วินเธอร์ ทาบมือหนาๆบนหน้าผากเนียนของวินเธอร์
"ม...ไม่มีอะ...”วินเธอร์ตกใจที่อยู่ๆเกร์ยก็เอามือหนาๆมาทาบที่หน้าผากตน จนพูดตะกุกตะกัก แต่ยังพูดไม่จบก็มีอีกเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา
“วินเธอร์แล้วเธอออกแบบเสื้อให้พวกเรายังอะ” เสียงของดราก้อนสเลเยอร์ไฟนัตสึ พูดด้วยแววตาที่เป็นประกายหวังว่าเขาจะได้ชุดใหม่ที่เขาหวังเอาไว้ วินเธอร์เมื่อมีเสียงนัตสึขึ้นมาแทรกทำให้เธอรอดพ้นจากเวลาน่าอึดอัดนั้น เธอจึงรีบตอบคำถามอย่างรวดเร็ว ถึงเธอรู้ว่าคำตอบนั้นจะทำให้เพื่อนเธอผิดหวังเล็กน้อย
“อืม! แต่ฉันแค่คิดเอาไว้เฉยๆ ยังไม่ได้วาดออกมา มีแค่ของเอลซ่าที่ฉันวาดออกมาแล้ว” วินเธอร์ยิ้มแห้ง เธอกลัวว่าเพื่อนๆของเธอจะโกรธเธอมากๆ
“ทำไมล่ะ T^T???” แต่กลับกัน นัตสึ ลูซี่ และเกรย์ตะโกนโกนโหยหั่วขึ้นมาเป็นเสียงเดียวกันแทน แต่นั้นก็ทำให้บุคคลหนึ่งโมโห
“เงียบน่าเจ้าพวกบ้า!!” มาเตอร์มาคาลอฟโวยวายออกมาอย่างหมดอารมณ์ เมื่อลูกๆที่แสนน่ารัก(???) ส่งเสียงโวยวายขัดจังหวะการดื่มเหล้าของเขา
“ขอโทษครับ/ค่ะ ปู่/มาสเตอร์” ทั้งสามคนพูดเสียงอ่อยเมื่อโดนมาสเตอร์ที่เคารพรัก(??)ดุเสียงดัง ทำให้กิลทั้งกิลเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“เอาน่าๆ เสียใจไปก็เท่านั้นแหละ พวกแกยังดีที่วินเธอร์คิดแบบออกมาเลย ให้เดานะของพวกเรายังไม่ได้คิดเลยมั้ง ใช่ไหมวินเธอร์” มาคาโอหนึ่งในจอมเวทเก่าแก่ของกิลบ่นป่นหัวเราะ กับการที่พวกนัตสึบ่นทั้งๆที่วินเธอร์ก็อุตส่าคิดให้แบบออกมาให้แล้ว
“ขอโทษค่า งั้นเดี๋ยวทำอะไรให้ทานเป็นการตอบแทนนะค่ะ” วินเธอร์ขอโพย ขอพายพร้อมกับสัญญาที่จะทำอาหารให้ทั้งกิลทาน พร้อมเดินเข้าไปในครัวกับมิร่าสองคน
ระหว่างนั้นเกรย์ก็ลุกขึ้นไปดูรีเควศบอร์ดเพื่อหางานดีไว้ทำกับพวกนัตสึและก็ฆ่าเวลารออาหารอร่อยของวินเธอร์ด้วย แต่ระหว่งทางก็โดนคนขวางเสียก่อนซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากจูเบีย ล๊อกซาร์ สาวแห่งสายฝน
“ท่านเกรย์ค่ะ ท่านเกรย์ชอบชุดบ้าๆบอของยัยวินเธอร์นั้น จริงๆเหรอค่ะ” จูเบีย ถามเธอมักจะอิจฉาในตัววินเธอร์ เพราะว่าเกรย์มักสนใจในตัววินเธอร์มากกว่าตัวเอง
“วินเธอร์ไม่ใช่ยัยนั้น และชุดที่เธอออกแบบและตัดเองก็ไม่ไบ้าบอ วินเธอร์เป็นน้องของฉันอย่ามาพูดเรื่องเสียๆหายๆเกี่ยวกับวินเธอร์ให้ชั้นได้ยินอีก ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าฉันจะยอมคุยกับเธออีก อ้อ! อีกอย่างชุดที่เธอได้ตอนเข้ากิลก็เป็นฝีมือวินเธอร์เหมือนกัน รู้ไว้ซะด้วย” เกรย์เมื่อทนไม่ไหวจึงระเบิดอารมณ์ออกมาเป็นชุด สิ่งที่จูเบียพูดแทบทำให้เขาเกือบเป็นบ้า เขาเกลียดมากเวลาที่ให้ใครก็ตามมาพูดไม่ดีเกี่ยววินเธอร์ น้องสาวที่เขารักจนเกินคำว่าน้องสาว
“ท่านเกรย์~ จูเบียขอโทษค่า TT0TT ” เกรย์ไม่สนใจเสียงเรียกปนสะอื้นของสาวแห่งสายฝน เขากลับหลังหันและเดินกลับไปที่โต๊ะของพรรคพวกอย่างอารมณ์เสีย (เวอร์สุดๆ-////- /เกรย์|หรือว่าไม่จริงค่ะ -o-/เด)
“แหม~โมโหมาเลยนะ แล้วแน่ใจนะว่าวินเธอร์นะเป็นแค่น้องสาวของนายนะ เกรย์ แถม~ ฉันว่านะท่าทางของนาย มันไม่ใช่ท่าทางของคนที่เป็นห่วงน้องสาวเลยซักนิด มันเหมือนกับ.... หึๆๆ” เอลซ่าพูดลอยๆแต่ก็ดังพอที่จะให้เกรย์ที่กำลังเดินมาที่โต๊ะได้ยินด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมกับเว้นคำไวัอย่างจงใจ มือขวาที่ถือส้อมอยู่ก็วางลงบนจานเค้กที่ว่างเปล่าบนโต๊ะ แล้วจึงลุกขึ้นแล้วก็เดินมาหาเกรย์ด้วยสายตาอันเจ้าเล่ห์ที่จ้องจับผิด คนในกิลเริ่มหันมาสนใจทางทั้งสอง ส่วนใหญ่หันมาเพราะสงสัยในความสัมพันธ์ของเกรย์กับวินเธอร์ สายตาของคนเกือบทั้งกิลยังไม่เท่าไร แต่สายตาที่ทำให้เกรย์เสียวสันหลังคือสายตาอันเจ้าเล่ห์ของสาวผมแดงด้านหน้าเขา ที่จ้องจะจับผิดเขาตลอดเวลา
“พ...พูดอะไรนะเอลซ่า! ม..ไม่มีทาง!” เกรย์พูดเสียงดังพยายามทำให้ตัวเองหรอดพ้นจากภัยครั้งนี้ ใบหน้าของหนุ่มน้ำแข็งขึ้นสีแดงระรื่นเหมือนมะเขื่อเทศสุก บนใบหน้ามีเหงื่อพุดขึ้นเต็มหน้า เกรย์ก้าวถอยหลังช้าๆเพื่อหนีจากสายอันเจ้าเล่ห์ดังหมาป่าของเอลซ่าแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะติดโต๊ะ
“เอ๋ ถ้าไม่ใช่ทำไมต้องหน้าแดงด้วยละ แถมเหงื่อออกเติมหน้าอีก เนอะลูซี่” เอลซ่าพูดอย่างมีชัย เอื่อมมือไปจับไหล่เกรย์เพื่อไม่ให้หนี พร้อมส่งรอยยิ้มเคลือบยาพิษให้ และไม่ลืมที่จะขอความเห็นจากสาวผมทองที่เดินมายืนข้างๆเธอ
“นั่นสิ ทำไมน่า~ คิคิคิ”ลูซี่พูดอย่างมีความสุข พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เพื่อนหนุ่ม เป็นรอยยิ้มที่หนุ่มคนไหนมาเห็นคงต้องละลาย แต่ไม่ใช่กับเกรย์เขารู้ดีว่าจเป็นรอยิ้มเคลือบยาพิษแบบเอลซ่า
“นี่เธอก็เอากับเขาด้วยเหรอลูซี่”ชายหนุ่มแทบจะบ้าตายเมื่อสองสาวตัวดีร่วมหัวแกล้งเขา เสียงนรกของเกรย์ดังขึ้น เมื่อเสียงประตูห้องครัวถูกพลักให้เปิด พร้อมกับเสียงใสของคู่กรณีเขาที่ตามมา
“นี่พวกนายทำอะไรอยู่นะ”วินเธอร์เดินออกมาจากห้องครัวอย่างงงๆเมื่อทุกคนมุงเอลซ่า,ลูซี่และเกรย์ที่อยู่ตรงกลาง
“อ้อ! พวกเรากำลังคุยเรื่อง....เค้ก <3 !!” เอลซ่าหันมาตอบวินเธอร์ขนาดในมือยังจับไหล่ของเกรย์ไว้แน่นเหมือนกับตำรวจที่จับผู้ร้ายไว้ได้และไม่ยอมปล่อยก็ไม่ปาน แต่สายตาของเอลซ่าก็ไปหยุดที่ของหวานสุดโปรดของเธอที่วินเธอร์ถืออยู่เสียก่อน เมื่อเอลซ่าพูดคำ”เค้ก” ทุกคนแทบจะหันมาพร้อมกันด้วยสายตาอันแวววาว
“เดี๋ยวซิ อย่าทำหน้าตาสยองอย่างนั้น ฉันทำเค้กเพื่อไถ่โทษให้กับคนที่ฉันยังไม่ได้ออกแบบเสื้อชุดใหม่ให้นะ”วินเธอร์ทำหน้าเจื่อนๆ แล้ววางเค้กไว้บนโต๊ะข้างๆ แต่ไม่ทันไรสาวผมแดงสดก็วิ่งมาคว้าจานและเค้กไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยมังกรหนุ่ม และแมวบินได้
“เฮ้อ! ค่อยยังชั่วที่เค้กดึงความสนใจของเอลซ่าได้ตลอด ไม่งั้นละก็...เฮอะๆๆ” เกรย์ถอนหายใจ พร้อมขำกับตัวเองที่พึ่งรอดจากไททาเนียได้ แต่เรื่องไม่ทันหาย โจทก์เก่าก็กลับมา
“ไม่งั้นอะไรเหรอ เกรย์” วินเธอร์ที่พึ่งเดินแยกออกมาจากกลุ่มที่กำลังแย่งชิงเค้กกันอยู่ ก็เดินมาด้านหลังเกรย์โดยไม่ให้สุ่มให้เสียงถามเขาเสียงเบาข้างหูหวังที่จะแกล้งชายหนุ่มเล่น ทำให้เขา
“ว๊าก! เหวอ~ โครม” มันช่างเป็นซาวแอฟเฟคที่บันเจิดจริงๆ คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้น เกรย์ตกใจจนเซไปชนกับโต๊ะข้างๆแล้วก็ล้มลงไปกองกับพื้น เรียกเสียงขำจากรอบข้าง
"555+ ดูไม่ได้เลยว่ะ เกรย์"
"นั้นดิ ก๊ากๆ"
“อุบาทมากอ่ะ เกรย์”
“ไม่ไหวเลย”
“เป็นไรมากไหมค่ะ คุณเกรย์”
"อะไรอีกเนี่ย น่ารำคาญจริงๆ เชอะ"
“ท่านเกรย์เจ็บมากไหมค่ะ”
“ขอโทษนะเกรย์เป็นอะไรมากไหม"
เดาได้ไหมใครพูดบ้าง เริ่มจากคู่หูวัยทอง มาคาโอกับวาคาบะ ต่อด้วยลูซี่ที่พูดอย่างหน่ายใจ,เลวี่ที่พูดสมทบลูซี่, เวนดี้ ที่แสนดีกับน้องแมว(??)ขนขาว, จูเบียที่มาจากไหนไม่รู้, และวินเธอร์ที่ก้มลงไปประคองพี่ชายที่อยู่บนพื้น
“เป็นไรไหมเกรย์ ขอโทษนะเจ็บตรงไหนรึเปล่า แต่ทำไมขวัญอ่อนจัง ฉันแกล้งตามปกตินะเนี่ย”วินเธอร์ถามอย่างเป็นห่วงแล้วค่อยๆพยุงให้เกรย์ยืน
“ไม่เป็นไรหรอก” เกรย์ยิ้มรับ แต่ก็ต้องรีบหุบเพราะรังสีเจ้าเล่ห์พุ่งทิ่มแทงเขาอยู่ซึ่งไม่ต้องถามว่าใคร ลูซี่นั้นเอง
“อุยอิ, เอ้าอางเองไออิง อึก! มากินนี่เร็วดิ อร่อยนะ”เป็นโชคดีของเกรย์??(โชคดีตรงไหนโดนเรียกว่า ไอ้กางเกงในลิงเนี่ยนะ =-=/ เกรย์ , ฟังออกด้วยเหรอ ^^/ เด)ที่ดราก้อนสเลเยอร์จอมตะกละเรียกพวกเขาเอาไว้ เพราะแทนที่ผู้อัญเชิญเทพแห่งดวงดาวสาวจะมาล้อเขา เจ้าหล่อนต้อลเอาเวลาไปแต่วีนหนุ่มมังกรแทน
"ไม่ได้ชื่ออุยอิ แล้วก็เคี้ยวให้หมดก่อนเรียกชื่อคนอื่นสิยะ ตาบ้านัตสึ" เสียงเล็กบ่นหนุ่มผมชมพูที่ตอนนี้ตักเค้กชิ้นที่หกใส่ในจาน ทันใดนั้นลูซี่ก็สัมผัสได้ถึงเรือนผมสีเงินที่ผ่านหน้าตนไปอย่างว่องไวตรงไปยังนัตสึ
"นี่นัตสึเลิกกินได้แล้ว เหลือไว้ให้คนอื่นบ้าง"น้องสาวคนสุดท้องของตระกูลสตราอุส ตะโกนใส่หน้านัตสึ พร้อมกับดึงจานในมือของชายหนุ่มไปวางไว้ที่โต๊ะข้างๆอย่างหน่ายใจ
"ทำๆไมอ่ะลิซาน่า~TAT ฉันพึ่งกินไป5ชิ้นเองแต่ดูเอลซ่าดิ ดูเอลซ่า เอลซ่ากินไป10ชิ้นแล้ว ครึ่งต่อครึ่งเลยนะ" นัตสึทำหน้าเศร้าพร้อมโอดครวนอย่างโหยหวน พร้อมกับใช้ความสามารถระดับเทพ แกล้งบีบน้ำตาเพื่อให้ลิซาน่าสงสาร แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะหญิงสาวไม่มีทีท่าจะคืนให้เลย
"ไม่! เอลซ่าก็คือเอลซ่า นายก็คือนาย มันไม่เหมือนกันนะ ไม่ต้องเอาเอลซ่ามาเป็นข้ออ้างเลย โอเค! แล้วก็หยุดกิน"ลิซาน่าตะโกนใส่หูนัตสึเมื่อนัตสึทำท่าจะหยิบชิ้นที่6
"อ่าว ไม่ใช่ว่าไม่กล้าเตือนเหรอ ลิซาน่า ฮิฮิ"วาคาบะอีกหนึ่งผู้อาวุโส??ของกิลรุ่นเดียวกับมาคาโอถามเชิงแกล้ง
"คือ~ ไม่กล้า" ลิซาน่าทำท่าคิดแต่ก็ตอบกลับมาหน้าตาเฉย
"เข้าใจแล้วนะ นัตสึ"เธอพูดและหันไปทางนัตสึที่ย่องอย่างโจรพร้อมอาวุธจิ๋ว เตรียมสวาปามเค้กชิ้นที่หกที่ลิซาน่าทิ้งไว้บนโต๊ะ ด้วยหน้าตาจริงจัง
"ไอ๊เซอร์~ T^T" นัตสึสะดุ้งพร้อมกับวางช้อนและเดินออกจากโต๊ะอย่างเสียดาย นัตสึเดินเหมือนร่างไร้วิญญาณไปหามิร่าพี่สาวลิซาน่าที่กำลังยืนคุยอยู่กับเกรย์และวินเธอร์อยู่
"มิร่า~ลิซาน่าลำเอียงอะ ฉันพึ่งกินไปห้าชิ้นเอง แต่เอลซ่ากินไปตั้งสิบชิ้นแล้วยังไม่ว่าเลยง่ะ T3T "นัตสึบ่นเหมือนเด็กที่โดนแย่งขนมไม่มีผิด
"อุ๊ยต๊าย ตาย อย่าคิดมากน่า นัตสึ" มิร่าอุทานเบาๆพร้อมกับยิ้มแห้งให้การกระทำเด็กๆที่ไม่เข้ากับหน้าตาของหนุ่มผมชมพู
"อย่าเศร้าไปเลยน่านัตสึ ลูกผู้ชาย!!! " เอลฟ์แมนที่มาจะไหนไม่มีใครรู้ตะโกนใส่หูนัตสึ ทำให้คนที่มักจะเดือดอยู่ตลอดเวลาอย่างนัตสึโมโหแล้วก็
"หนวกหูโว้ย อย่ามาตะโกนใส่หูฉันนะเฟ้ย" นัตสึระเบิดอารมณ์อย่างโมโหที่ไอ้บ้าร่างยักษ์ตะโกนใส่หู พร้อมกับแจกกำปั้นให้เป็นชุดจนเกิดการตะลุมขึ้นแบบปกติ
งั้นเดี๋ยวมาอัพเพิ่มนะคะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น